top of page
Search
Writer's pictureBird Anuchat

เทคนิคการฝึกโยคะ (Yoga) อย่างง่ายๆ



เทคนิคการฝึกโยคะ (Yoga) อย่างง่ายๆ

โยคะ (Yoga) นำความสงบมาสู่ความเป็นอยู่ของเรา การฝึกหัดโยคะยังเป็นปรัชญาอีกด้วย โยคะ (Yoga) เป็นวิธีการแห่งการมีสุขภาพที่ดีและเป็นวิถีแห่งชีวิต โยคะ (Yoga) เป็นสิ่งที่แพร่หลายอย่างมาก แต่ก็ยังคงมีบางสิ่งที่เป็นปริศนา ผู้คนส่วนใหญ่ได้ยินเกี่ยวกับโยคะ (Yoga) แต่ถึงกระนั้นก็ยังคงมีความสับสนในข้อที่ว่า จริงๆ แล้วโยคะ (Yoga) คืออะไรแน่? ... ความเข้าใจผิดโดยทั่วๆ ไป ก็คือ โยคะ (Yoga) เป็นรูปแบบที่ลึกลับ การฝึกโยคะในระหว่างที่งอตัวไปมาในท่าที่แปลกประหลาดอย่างต่อเนื่อง และการทรมานตน สิ่งเหล่านี้ไม่ถูกต้องเลยแม้แต่สิ่งเดียว โยคะ (Yoga) เป็นกิจกรรมที่ง่ายๆ และนิ่มนวล เหมาะสมสำหรับทุกคน การฝึกโยคะนั้นไม่ใช่เป็นพิธีกรรมทางศาสนา โยคะ (Yoga) ได้พัฒนาขึ้นมาในฐานะที่เป็นปรัชญาแห่งชีวิต ดังนั้นการฝึกโยคะจึงได้พัฒนาเพื่อการยืนยันถึงปรัชญาในข้อนี้ โยคะ (Yoga) เน้นถึงความจำเป็นแห่งความกลมกลืนเข้ากับทุกสิ่ง คำว่า "โยคะ (Yoga)" มีรากศัพท์มาจากคำในภาษาสันสกฤตว่า "ยุจ (YUJ)" ที่มีความหมายว่า "การประกอบกันหรือการเชื่อมผนึกกัน" นี่คือเนื้อแท้ของโยคะ ที่ทำให้ร่างกายและจิตใจเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน พร้อมกับมีพลังแห่งชีวิตไหลเวียนอยู่ภายใน เมื่อส่วนประกอบเหล่านี้เคลื่อนไหวอย่างใกล้ชิดพร้อมๆ กัน เราก็จะมีประสบการณ์ถึงความกลมกลืนและสมดุลแห่งร่างกายของเรา นำเอาความสงบเงียบแห่งชีวิตมาสู่เรา

การฝึกโยคะมีผลต่อสุขภาพในทุกๆ ด้าน ส่งเสริมให้ร่างกายแข็งแรง จิตใจที่แหลมคม และมีความสามารถในการลดผลกระทบอันเกิดจากความเครียด ในขณะที่คุณฝึกโยคะ ขอให้คุณสังเกตดูว่าความวิตกกังวลในชีวิตประจำวันของคุณนั้นถูกทำให้สูญหายไปได้อย่างไร และชีวิตของคุณได้เริ่มต้นดำเนินไปอย่างเรียบง่ายเพียงใด เทคนิคการฝึกโยคะ (Yoga) อย่างง่ายๆ การฝึกโยคะ (Yoga) ประกอบด้วยเทคนิคง่ายๆ ซึ่งดำเนินไปพร้อมกับการก่อให้เกิดสุขภาพที่ดีและมีความสงบสุขแห่งชีวิต เทคนิคการฝึกโยคะ (Yoga) อย่างง่ายๆ ก็คือ 1. ท่าฝึกในทางกาย (ท่าอาสนะ) ซึ่งเป็นท่าฝึกพื้นฐานทางกายบริหารของโยคะ หรือท่าอาสนะ ท่ากายบริหารนี้ดำเนินอย่างนิ่มนวลและละเอียดอ่อน เพื่อเป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นทำให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และทำให้กระดูกสันหลังแข็งแรง ประสิทธิภาพในทางเสรีศาสตร์จะถูกทำให้มีความสมดุล มีความกลมกลืนซึ่งกันและกันและพิษในร่างกายจะถูกขับออกไป ในขณะที่คุณฝึกท่าอาสนะไปจนตลอดแล้ว ก็ขอให้ชื่นชมกับความกลมกลืน มิใช่แต่เฉพาะในแต่ละท่าของการฝึกเท่านั้น แต่ชื่นชมในท่าฝึกเหล่านั้นทั้งหมด และนี่คือ "ศิลปะแห่งการฝึกโยคะ" 2. การฝึกหายใจ (ฝึกลมปราณ) การฝึกหายใจเป็นสิ่งที่สำคัญมาก การหายใจให้ถูกวิธีเป็นการยกระดับแห่งคุณค่าของการฝึกในท่าอาสนะให้สูงขึ้นเป็นอย่างยิ่งทีเดียว กฎเกณฑ์แห่งการหายใจโดยทั่วๆ ไปก็คือ การหายใจเข้าในขณะที่ร่างกายถูกทำให้ยืดออกและหายใจออกในขณะที่ร่างกายถูกทำให้หดเข้ามา คุณอย่ากลั้นการหายใจ เว้นแต่จะได้รับคำแนะนำ ขอให้คุณหายใจผ่านจมูกและรู้สึกตัวถึงการหายใจอยู่เสมอ ขอให้พักในระหว่างการฝึกท่าต่างๆ จนแน่ใจว่าการหายใจได้กลับคืนสู่สภาวะเดิมที่เป็นปกติ ก่อนเริ่มฝึกในท่าใหม่ๆ 3. การฝึกทำสมาธิ การฝึกทำสมาธิ คุณเรียนรู้ที่จะอยู่กับปัจจุบัน ลืมกิจกรรมประจำวัน ลืมอดีต ลืมแผนการของคุณในอนาคต ขอให้คุณชื่นชมอยู่กับ ณ ที่นี่ และ ณ บัดนี้เท่านั้น ในการฝึกทำสมาธิเช่นนี้มิใช่เป็นเรื่องง่ายๆ แต่เมื่อทำได้สักครั้งหนึ่ง คุณจะรู้สึกจิตใจสงบและอารมณ์มั่นคงมีความผ่อนคลาย ปลอดภัยจากความเครียดที่เกิดจากภายในและภายนอก คุณจะรู้สึกถึงความสัมพันธ์แห่งกาลเวลาและเป็นหนึ่งเดียวในสรรพสิ่งในสากลจักรวาล "สมาธิ" เป็นผลสูงสุดที่ได้จากการฝึกโยคะ "จิตสมาธิในแง่โยคะ" ก็คือ จิตที่มีความเป็นหนึ่งเดียว 4. การผ่อนคลายโดยสิ้นเชิง การฝึกโยคะ ร่างกายและจิตใจจะผ่อนคลายอย่างลึกซึ้ง ทำให้จิตใจสงบและมีชีวิตชีวา คุณควรจะดื่มด่ำอยู่กับช่วงเวลาแห่งการผ่อนคลาย สัมผัสพลังแห่งชีวิต การฝึกโยคะมิใช่กิจกรรมแห่งการแข่งขัน แต่เป็นศิลปะแห่งความนุ่มนวล ไม่มีอาการหยิ่งผยอง ไม่มีอาการหอบ ไม่ก่อให้เกิดอาการเคล็ดขัดยอกและไม่เจ็บปวดจากการฝึกโยคะ

ขอให้คุณตระหนักถึงการให้ความเป็นห่วงต่อร่างกาย ขอให้คุณทำการฝึกแต่ละขั้นตอนด้วยตัวคุณเอง และที่สำคัญขอเพียงให้คุณสนุกสนานต่อการฝึกโยคะ (Yoga) ในฐานะที่เป็นช่วงเวลาอันล้ำค่าที่อยู่ห่างจากความเป็นห่วงต่อภารกิจประจำวันของคุณ.



6 views0 comments

Comments


bottom of page